โรนัลโด้

5 เหตุการณ์สุดย่ำแย่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้

5 เหตุการณ์สุดย่ำแย่ ในเส้นทางการค้าแข้งของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นสิ่งที่ต้องเผชิญไม่ต่างจากนักเตะรายอื่นๆ เพราะใช่ว่าการก้าวขึ้นมาเป็น ผู้เล่นระดับซูเปอร์สตาร์ ทุกอย่า่งจะโดรยด้วยกลีบกุหลายเสมอไป อุปสรรคต่างๆ นาๆ พร้อมเข้ามาเป็นบทพิสูจน์อยู่เสมอ

การเริ่มต้นสร้างชื่อเสียงตั้งแต่สมัยเป็น วันเดอร์ส คิด กับสโมสร สปอร์ติ้ง ลิสบอน ยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่สื่อจ้องจะเล่นงานเขามากนัก แต่หลังจากย้ายมาทีมใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด การทำอะไรผิดพลาดแค่เล็กๆ น้อยๆ สามารถเป็นประเด็น ที่จะถูกนำมาเล่นงานได้เสมอ

ยิ่งพอมีความสำเร็จติดตัวเป็นถ้วยแชมป์ บวกกับรางวัลส่วนตัวที่พุ่งเข้ามาหาเรื่อยๆ จนได้ไปตามฝันกับ เรอัล มาดริด ดูเหมือนว่า ซีอาร์เซเว่น จะกลายเป้นนักเตะที่ขึ้นหิ้ง ขยับตัวไปในทิศทางไหน ก็แทบจะไม่ได้หลุดออกไปจากแสงสปอตไลท์ หลังจากสร้างสถิติอันน่าเหลือเชื่อได้มากมาย

ผลงานระดับชาติของเขา หลังพาโปรตุเกสคว้าแชมป์มาครองได้ ทำให้เหลือเพียงถ้วยเมเจอร์ไม่ี่รายการเท่านั้น ที่เป็นความท้าทายของเขา หนึ่งในนั้นคือ รายการฟุตบอลโลก ที่จะจัดขึ้นช่วงปลายปีนี้ ซึ่งเป็นเวทีที่รวมพ่อค้าแข้งตัวท็อป เตรียมเข้าห้ำหั่นกันแบบถึงพริกถึงขิง

แน่นอนว่าโอกาสที่ โรนัลโด้ จะเจอกับโมเมนต์ที่ผิดหวังในชีวิตอีกครั้ง คงเกิดขึ้นได้ไม่ยาก ยิ่งเจ้าตัวเป็นนักเตะประเภทแพ้ไม่ได้ ยอมทำทุกอย่างเพื่อชัยชนะแล้วละก็ ย่อมกลายเป็นเป้าสายตาให้แฟนบอล จ้องจับตาดูผลงานของเขามากเป็นพิเศษ บนทัวร์นาเมนต์สั่งลาทีมชาติครั้งนี้

ก่อนจะไปเจอกับสถานการณ์บีบใจช่วงนั้น มาย้อนรอยไปพร้อมๆ กันเลยว่า 5 ครั้งที่เขาต้องเจอกับความผิดหวัง หรือ ทำตัวย่ำแย่ จนโดนเล่นงานจากทั่วทุกสารทิศ จะมีอะไรกันบ้าง?

5 เหตุการณ์สุดย่ำแย่ อันดับที่ 5-4

อันดับที่ 5 – โดนไล่ออกในเกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้

5 เหตุการณ์สุดย่ำแย่-5

ตลอดอาชีพการค้าแข้งของ โรนัลโด้ เขาโดนไล่ออกจากสนามไปทั้งหมด 11 ครั้ง แล้วหนึ่งในเกมที่ต้องจดจำแบบไม่ลืมเลือน เป็นเหตุการณืที่เกิดขึ้นในเกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ปี 2006 ที่ต้นสังกัดของเขา พ่ายแพ้ให้กับอริร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปแบบหมดรูป 1-3

จังหวะดังกล่าวเกิดขึ้นในครึ่งหลัง เมื่อตัวของ โรนัลโด้ พุ่งเข้าไปปะทะใส่ แอนดี้ โคล เมื่อเกมเหลือเวลาอีกราวแค่ครึ่งเดียว สกอร์ตามหลังอยู่ 0-2 ดาวรุ่งวัย 20 ปีแบบเขา คงไม่สามารถระงับอารมณ์ได้อยู่ ส่งผลให้ต้องออกไปอาบน้ำก่อนเพื่อน ถึงแม้ว่า ปีศาจแดง จะพยายามอุทธรณ์ แต่ทางลีกกับตัดสินว่าไม่เป็นผล เลยถูกแบนไปสามเกมตามระเบียบ

อันดับที่ 4 – จังหวะกระพริบตาในตำนาน

5 เหตุการณ์สุดย่ำแย่-4

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในฟุตบอลโลกปี 2006 เป็นเกมที่ทีมชาติโปรตุเกส เจอกับทีมชาติอังกฤษ แล้วเกมกำลังดุเดือดแบบสุดๆ เพราะสองฝ่ายเดิมพัน ด้วยการผ่านเข้ารอบองชนะเลิศ จึงต้องทุ่มกันแบบสุดตัว ถึงพริกถึงขิง จนอุณหภูมิเกมสูงขึ้นเรื่อยๆ

ไฮไลท์เกมนี้เกิดขึ้นเมื่อ เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าเพื่อนร่วมทีมของเขาในสโมสร แต่เป็นศัตรูกันในเกมระดับชาติ ดันไปเข้าปะทะหนักใส่ผู้เล่นโปรตุเกส แล้วนักเตะทัพ ฝอยทอง ต่างเข้าไปรุมกดดันผู้ตัดสิน จนต้องชักใบแดงไล่ดาวยิงสิงโโตคำรามออกไป แล้วตัวของ โรนัลโด้ ดันไปกระพิบตาส่งซิกให้เพื่อน เหมือนกับงานเสร็จเรียบร้อยดี

ปรากฏว่าหลังจบทัวร์นาเมนต์ เขาแทบจะโดนแฟนบอลในอังกฤษแบน มีข้อความขู่ การกระทำที่รบกวนให้รู้สึกไม่สงบ จนพยายามดิ้นรนหาทางย้ายทีม ก่อนจะปรับความเข้าใจกันได้ในภายหลัง ซึ่งถ้ามองกันตามตรงแล้ว หากเขาไม่ทำพฤติกรรอันน่ารังเกียจ แล้วคิดให้เยอะว่าต้องกลับไปเล่นร่วมกัน คงไม่โดนแฟนบอลและสื่อ เล่นงานจนแทบเอาตัวไม่รอด

5 เหตุการณ์สุดย่ำแย่ อันดับ 3-2

5 เหตุการณ์สุดย่ำแย่-3

อันดับที่ 3 พลาดลูกจุดโทษนัดชิงบอลยุโรป

เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ ที่ทาง ยูไนเต็ด โคจรมาพบกับ เชลซี ลงเล่นกันที่สนามกลาง ลุซนิกี้ กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ต่างฝ่ายต่างตั้งเป้าเป็นแชมป์ไม่ต่างกัน แล้ว โรนัลโด้ ก็เกือบเป็นฮีดร่ให้กับทีมได้ เมื่อทำประตูออกนำไปก่อน ตั้งแต่นาทีที่ 26

อย่างไรก็ตาม แฟร้งค์ แลมพาร์ด ก็มายิงตีเสมอให้กับ สิงโตน้ำเงินคราม ได้ในนาทีที่ 45 ก่อนที่ทั้งสองทีมจะทำอะไรกันไม่ได้ เล่นยาวไปจนถึงช่วงต่อเวลา 120 นาที แล้วยังไม่มีผู้ชนะ เลยต้องดวลจุดโทษตัดสินแชมป์ ที่ไม่มีทีมใดไม่รู้สึกกดดัน

ปรากฏว่า โรนัลโด้ ถูกจัดวางให้เป็นเพชรฆาตลำดับที่ 3 แต่การยิงลูกจุดโทษของเขา กลับถูกทาง ปีเตอร์ เช็ค เดาทางได้อย่างสุดยอด เซฟได้แบบเต็มๆ เล่นเอาเจ้าตัว ถึงกับร้องไห้ออกมา แสดงอาการเหมือนว่า เขาคือคนที่จะทำให้ทีมแพ้ โชคยังดีที่ จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีม เชลซี พลาดท่าลื่นในการยิงลูกสุดท้าย เลยทำให้ต้องดวลกันแบบ ซัดเด้น เด้ด แล้วปรากฏว่า ยูไนเต็ด เอาชนะไปได้แบบสุดระทึก 6-5

5 เหตุการณ์สุดย่ำแย่ อันดับที่ 2 – ความพ่ายแพ้ที่น่าอับอายในศึก เอล กลาสิโก้

แฟนบอลต่างรู้กันดีว่า เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า คือ สองทีมคู่อริประจำศึก ลาลีก้า สเปน ที่เจอกันเมื่อไหร่ เล่นกันแบบเอาเป็นเอาตายตลอด ในเกมที่ถูกขนานนามว่า เอล กลาสิโก้ ที่เดิมพันด้วยศักดิ์ศรีของทั้งคู่

แน่นอนว่าตัวชูโรงของ ราชันชุดขาว คือ โรนัลโด้ ซึ่งดันไปเป็นคู่แข่งโโยตรง ด้านการสร้างสถิติอันน่าทึ่งกับ ลิโอเนล เมสซี่ ที่สังกัดอยู่กับ เจ้าบุญทุ่ม ซึ่งแฟนบอลของทั้งสองทีม ต่างคาดหวังให้ สตาร์เบอร์หนึ่งของทีม เค้นศักยภาพเอาชนะคู่แข่งให้ได้

อย่างไรก็ตามเกมที่ลงเล่นกันที่สนาม คัมป์ นู ในปี 2010 โรนัลโด้ ไม่สามารถช่วยอะไรต้นสังกัดอย่าง ราชัดชุดขาว ได้เลย กลับเป็น เมสซี่ ที่เฉิดฉาย ด้วยการพาทีมถล่มไปแบบขาดลอย 5-0

อันดับที่ 1

ไม่สามารถพา ยูเวนตุส ผ่านเข้าชิงบอลยุโรป แม้แต่สมัยเดียว

เจ้าของฉายา มิสเตอร์ ยูซีแอล คว้าแชมป์รายการนี้มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง เป็นหนึ่งในเวทีการแข่งขันที่ โรนัลโด้ เฉิดฉาย มากที่สุด ยิงประตูได้เป็นว่าเล่น มีโมเมนต์ไฮไลท์ให้จดจำมากมาย แต่พอย้ายไปอยู่กับ ยูเวนตุส ภาพเหล่านั้นกลับไม่เกิดขึ้น

ม้าลาย คาดหวังให้ โรนัลโด้ ย้ายมาเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้าย ช่วยพาทีมเป็นแชมป์ยุโรป ที่รอคอยมานานได้สักที แต่ปรากฏว่าตลอดสามปี ซีอาร์เซเว่น ไม่ได้ช่วยอะไรทีมได้เท่าไหร่ จอดป้ายแค่รอบ 8 ทีมสุดท้าย พ่ายแพ้ให้กับทีมรองบ่อนอย่าง อาแจกซ์, โอลิมปิก ลียง และ ปอร์โต้ จะเรียกว่า เสียรังวัดก็ไม่ผิดนัก

เว็บไซต์ cr7ronaldo จัดทำขึ้นมาให้แฟนคลับของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โดยเฉพาะ ด้วยการรวบรวมเรื่องราว ประวัติความเป็นมา เส้นทางชีวิต ไลฟ์สไตล์ ข่าวสารที่น่าสนใจต่างๆ ของหนึ่งสตาร์ที่ดีที่สุดบนโลกลูกหนัง เอาไว้แบบครบครันจบในที่เดียว จัดมาให้แบบเพียวๆ เน้นๆ ลองติดตามกันไว้ ต่อให้เป็น เฮตเตอร์ วันหนึ่งอาจจะเปลี่ยนใจมาร่วมเชียร์ด้วยกันก็เป็นได้ หากรับรู้ถึงความมุ่งมั่นอันเกินลิมิตของมนุษย์ ที่กล้าท้าทายขีดจำกัดของตัวเองอยู่เสมอรายนี้